“จิ่วจ้ายโกว”ดินแดนแห่งความฝัน
Photo by he gong
การเดินทางที่เหมือนเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน ณ “จิ่วจ้ายโกว” ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ดินแดนบนขุนเขาซึ่งเราจะได้พบและสัมผัสกับความงามของทิวทัศน์ธรรมชาติบนเทือกเขาสูง ที่สวยดุจดั่งสรรค์ ที่มีหิมะปกคลุมบนยอดเขาเหมือนอย่างที่เห็นในยุโรป มีป่าเปลี่ยนสีที่งดงาม รอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
Thanks for the Photos: Rosalind Chang, Sarah Lee, he gong and Hanyun Guo on unsplash.com
จิ่วจ้ายโกว เป็นอุทยานแห่งชาติของจีนที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก เพราะมีธรรมชาติที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นลำธาร น้ำตกขุนเขาป่าเปลี่ยนสี หรือดอกไม้งาม ซึ่งในแต่ฤดูกาลก็จะมีความงดงามที่แตกต่างกัน หากเป็นช่วงหน้าฝน ผืนป่าและขุนเขาจะแลดูเป็นสีเขียวขจี พอใกล้ฤดูหนาวป่าจะเริ่มเปลี่ยนสี หลากด้วยสีสันอันงดงาม แถมทั้งยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงามกัน
พอเข้าฤดูหนาวก็จะมีหิมะตกปกคลุมยอดเขา ลำธารบางแห่งกลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งเป็นภาพความงามของธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง การเข้าเที่ยวภายในอุทยานฯ จิ่วจ้ายโกวนั้น โดยส่วนมากทางบริษัททัวร์จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไว้หมดแล้ว รวมไปถึงรถเหมาที่วิ่งภายในอุทยานฯ
หากไม่เหมาก็ต้องไปนั่งรถ Shuttle Bus เป็นรถรวมจะขึ้นลงตามจุดจอดรถที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นลงคันไหนก็ได้ โดยคิดคนละ 90 หยวน แต่ถ้าเป็นรถเหมาแบบ 20 ที่นั่ง มีราคาคันละ 4,200 หยวน ภายในอุทยานนั้นจะไม่ให้นำรถภายนอกเข้าไป เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมไม่ให้มีมลพิษ เพราะรถยนต์ที่ใช้ภายในนั้นจะใช้เครื่องที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งรถที่เตรียมไว้นั้นจะจอดตามจุดที่กำหนด ด้วยเหตุว่าถนนนั้นแคบและอันตราย
พอเริ่มเข้าปากทางอุทยานฯ ก็จะเจอกับป่าเปลี่ยนสีออกมีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ระหว่างทางก็จะพบกับทะเลสาบมังกรหลับ ที่มีผืนน้ำสีเขียวมรกต พร้อมฉากหลังที่เป็นป่าเปลี่ยนสีที่สวยงาม ต่อจากนั้นเราก็ต้องตกตะลึงกลับภาพทะเลสาบซูเจิง ที่มีผืนน้ำสีเขียวมรกตคั่นด้วยแนวป่าเปลี่ยนสี ถัดขึ้นไปจะเป็นน้ำตกซูเจิง ขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าเปลี่ยนสีที่กระจายอยู่ทั่วขุนเขา จากนั้นก็จะมาถึงทะเลสาบเสือ ที่สามารถมองเห็นผืนน้ำใสสะอาด เห็นท้องน้ำได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ๋ว แนวขุมเขาที่เป็นฉากหลังแต่งแต้มด้วยสีที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ ด้วยต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ซึ่งบางมุมเราจะเห็นป่าเปลี่ยนสีสะท้อนภาพบนผิวน้ำของทะเลสาบได้อย่างงดงาม
ในที่สุดก็จะขึ้นไปถึงน้ำตกนื่อรื่อหลาง ที่สวยงามมาก แม้จะไม่สูง ชั้นหินปูนเป็นแนวยาว ด้านบนน้ำตกเป็นที่ราบในหุบเขากว้างใหญ่ คาดว่าเป็นพื้นที่รองรับน้ำที่ไหลมาจากขุนเขาสูงที่อยู่ถัดไป ทั้งยังใป่าเปลี่ยนสีในบริเวณน้ำตก ซึ่งต้องเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยวทุกท่าน ฝั่งตรงข้ามน้ำตกจะมีศาลาตั้งอยู่มุมสูง เพื่อให้ขึ้นไปชมวิวและถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ต่อมาเป็นทะเลสาบดอกไม้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเป็นอันมาก เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วยป่าเปลี่ยนสี ผืนน้ำใสมองเห็นท้องน้ำ และมีเงาสะท้อนแนวป่า เกิดเป็นสีสันที่งดงามตา สะพานไม้ที่ทอดข้าททะเลสาบไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปชมธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม
ขึ้นไปถึงปลายทางที่ทะเลสาบไม้ไผ่ กลับไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่ถ้าแวะลงมาด้านล่างจะได้ชมทะเลสาบหมีแพนด้า ขนาดใหญ่ มีน้ำตกหมีแพนด้า ซึ่งมีความงามไม่แพ้น้ำตกแห่งอื่นๆ สายน้ำที่ไหลเป็นน้ำตกหมีแพนด้าก็มาจากตัวทะเลสาบด้านบน ส่วนน้ำตกด้านล่างมีป่าเปลี่ยนสีแซมสลับในบริเวณหน้าน้ำตก ช่วยแต่งเติมให้ภาพน้ำตกมีสีสันสวยงามน่าประทับใจทีเดียว จากนั้นก็ลงมาต่อที่น้ำตกธารไข่มุก ที่ต้องเดินตามสะพานไม้ลดหลั่นไปตามตัวน้ำตก และสภาพป่าเปลี่ยนสีที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้อย่างตระการตา แยกไปทางซ้ายจะเป็นเส้นทางลงไปหาน้ำตกธารไข่มุก ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาดมุมทางด้านหน้าที่จะพบกับภาพน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ สภาพธรรมชาติมีความสวยงามสมบูรณ์มาก เนื่องจากทางอุทยานฯ สร้างสะพานไม้เพื่อเป็นเส้นทางเดินที่ช่วยลดปัญหาการเดินออกนอกเส้นทาง เพื่อกันไม่ให้เหยียบย่ำธรรมชาติส่วนอื่นเสียหาย
ทะเลสาบยาว เป็นผืนทะเลสาบบนยอดเขาสูงที่มีขนาดใหญ่ น้ำในทะเลสาบละลายมาจากหิมะรายล้อมด้วยเทือกเขาสูง ด้านบนยอดเขามีหิมะปกคลุมเป็นสีขาว และรายรอบทะเลสาบก็มีป่าเปลี่ยนสีที่งามตา ส่วนสภาพอากาศที่ทะเลสาบยาวค่อนข้างหนาวเย็นกว่า เนื่องจากตั้งอยู่บนยอดเขาสูงประมาณ 3,150 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ในบริเวณนั้น ยังมียอดเขา Yuzhigonggai สูงถึง 4,350 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
นี่คือประสบการณ์ที่ท่านจะได้จากการเดินทางท่องเที่ยวสู่ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ “จิ่วจ้ายโกว” ที่ได้รับการกล่าวถึงความงดงามของป่าเปลี่ยนสีอันอลังการตา ได้ชมผืนทะเลสาบน้ำตก และทิวทัศน์ในดินแดนขุนเขาที่หนาวเย็นทั้งปี ซึ่งเราจึงต้องเลือกหาช่วงฤดูที่เหมาะสมกับบรรยากาศที่ต้องการ เห็นภาพความประทับของป่าเปลี่ยนสีที่ "จิ่วจ้ายโกว"